Facebook

Facebook.com

วันจันทร์ที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

วันเสาร์ที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

วันเสาร์ที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2553

วันศุกร์ที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2553

วันพฤหัสบดีที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2553

วันพฤหัสบดีที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2553

วันพฤหัสบดีที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2553

วันเสาร์ที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

คุณคือ Gen ไหน



Gen-B, Gen-X, Gen-Y, Gen-Z คืออะไร ?   เสี่ยงโรคอะไร ?

        
  ชื่อเหล่านี้คือ ยุคสมัยที่จัดแบ่งกลุ่มคนตามช่วงอายุทางวิชาประชากรศาสตร์ที่อเมริกันชนเขาใช้ และได้เผยแพร่ไปทั่วโลก
       
'Gen-B' (Generation B)
   หรือ Baby Boomers เป็นกลุ่มคนที่เกิดในช่วง พ.ศ. 2490-2508 ที่ปัจจุบันจะมีอายุอยู่ในระหว่าง 45-63 ปี 
′Gen-X′ (Generation X) คนที่เกิดระหว่างปี พ.ศ. 2508-2522 อายุ 30-44 ปี เป็นลูกของ Gen-B

'Gen-Y′ (Generation Y) คนที่เกิดระหว่างปี พ.ศ. 2523-2543 อายุ 9-29 ปี เป็นลูกเป็นหลานของสองกลุ่มข้างต้น
 
′Gen-Z′ (Generation Z) กลุ่มอายุน้อยที่สุดในปัจจุบัน เป็นผู้ที่เกิดในช่วง พ.ศ. 2537-ปัจจุบัน หรืออายุ 1-16 ปี 


   ยุคทั้ง ไม่เพียงแต่จะมีความต่างทางด้านสังคม ความคิดแล้ว เรื่องของการดำรงชีวิตและอาหารการกินยังแตกต่างออกไป จึงทำให้ในแต่ละเจเนอเรชั่นจึงมี โรค′ เฉพาะตัว โรงพยาบาลกรุงเทพมีข้อมูลความเสี่ยงใน โรคฮิต′ ของแต่ละเจเนอเรชั่นมาบอกกล่าว              
                                                                                                                                        

Gen-B   กลุ่มคนที่เกิดในช่วง พ.ศ. 2490-2508 ที่ปัจจุบันจะมีอายุอยู่ในระหว่าง 45-63 ปี
 
          
มักเจอ โรคยอดฮิต ความดันโลหิตสูง มะเร็ง หลอดเลือดสมอง
         ′ความดันโลหิตสูง′ คนส่วนใหญ่มักไม่รู้ตัวว่าเป็นโรคนี้ แต่ถ้าสังเกตดี ๆ อาจมีอาการเหล่านี้ เสียงดังหวิว ๆ ในหู ได้ยินเสียงชีพจรเต้นในหัวตัวเอง เลือดกำเดาไหลบ่อย เวียนหัวเป็นประจำจนผิดสังเกต ใจสั่น หัวใจเต้นแรงผิดปกติ ขาบวม หงุดหงิดง่าย อ่อนเพลีย
         ′มะเร็ง′ ที่พบได้บ่อยมากในคนไทย มีทั้งมะเร็งตับ มะเร็งปอด มะเร็งลำไส้ใหญ่ มะเร็งเต้านม และมะเร็งปากมดลูก สามารถรักษาได้หลายวิธีขึ้นอยู่กับบริเวณ มีทั้งให้ยา เคมีบำบัด ฉายแสง และผ่าตัด
         ′โรคหลอดเลือดสมอง′ หรือ ′stroke′ เกิดจากสมองขาดเลือดเพราะเกิดการอุดตันของเส้นเลือดที่นำอาหารและออกซิเจนไปเลี้ยงสมอง ส่วนใหญ่จะเกิดแบบเฉียบพลัน มักมีอาการตาพร่ามัว ปวดหัว วูบ แขนขาอ่อนแรงด้านใดด้านหนึ่ง พูด กลืนลำบาก ทรงตัวไม่ดี หากถึงมือแพทย์ช้าอาจเป็นอัมพฤกษ์อัมพาตได้
         ′โรคหลอดเลือดหัวใจตีบตัน′ หรือ หัวใจขาดเลือด′ เกิดจากไขมันสะสมในเส้นเลือดแดงจนไม่สามารถนำเลือดไปเลี้ยงหัวใจได้ มีการเจ็บหน้าอก จุกแน่นลึก ๆ บริเวณใต้กระดูกหน้าอก หรือหน้าอกด้านซ้าย มักมีการเจ็บร้าวไปที่หัวไหล่ซ้ายลงไปตามแขนซ้ายด้านใน หน้ามืด ต้นเหตุของโรคร้ายนี้เกิดจากความเครียด อาหารที่รับประทานเข้าไป ชา กาแฟ สูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์ พักผ่อนไม่เพียงพอ และไม่ออกกำลังกาย
         การดูแลป้องกัน คนเจเนอเรชั่นนี้ควรอย่าเครียด หมั่นออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ดูแลการทานอาหารให้ถูกหลักโภชนาการ หลีกเลี่ยงการทานอาหารหมักดอง หรือไหม้เกรียม งดกินเค็ม เลี่ยงรสจัด ชา กาแฟ และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กินอาหารไขมันต่ำ ทานผัก ผลไม้ ควบคุมความดันโลหิต พักผ่อนให้เพียงพอ และอย่าลืมตรวจสุขภาพกายและหัวใจเป็นประจำ
 

Gen-X   กลุ่มคนที่เกิดระหว่าง 2508-2522 ตอนนี้จะมีอายุอยู่ที่ 30-44 ปี  
 
 
 ′Gen-X′ เป็นลูกหลานของ Gen B   คนกลุ่มนี้เรียกได้อีกอย่างว่า Yuppie (Young Urban Professionals) เพราะเกิดมาพร้อมกับความมั่งคั่งของโลก จึงมีความคิดกว้าง มีพฤติกรรมง่าย ๆ สบายดี ให้ความสำคัญในเรื่องงานและครอบครัวอย่างเท่าเทียมกัน
 Gen-X เป็นวัยฉกรรจ์ที่กำลังอยู่ในช่วงการทำงานมักเสี่ยงกับการเป็นเบาหวาน ปวดหลัง และโรคกระเพาะ
 ′เบาหวาน′ เกิดจากการที่ร่างกายผลิตอินซูลินไม่เพียงพอ ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้น ซึ่งถ้าปล่อยไว้นานเข้า หลอดเลือดจะถูกทำลายและทำให้เกิดโรคแทรกซ้อนที่รุนแรงได้
 ′ปวดหลัง′ พบมากในคนที่ทำงาน แม้จะไม่อันตรายร้ายแรงถึงชีวิต แต่อาจเกิดอาการเรื้อรัง
 ′โรคกระเพาะ′ มักเกิดกับคนที่ต้องทำงานแข่งกับเวลา เคร่งเครียดจนลืมที่จะรับประทานอาหาร หรือเกิดจากการดื่มสุรา สูบบุหรี่อย่างหนัก มักจะมีอาการปวดท้องกะทันหัน หรือปวดก่อน-หลังรับประทานอาหารก็ได้ อาจมีอาการท้องอืด อาหารไม่ย่อย
  การดูแลป้องกัน ควรรับประทานอาหารให้เป็นเวลา ย่อยง่าย หลีกเลี่ยงอาหารรสจัด อาหารหมักดอง และแอลกอฮอล์ทุกชนิด หมั่นบริหารกล้ามเนื้อหลังให้แข็งแรง ฝึกการนั่งให้ถูกท่า เลี่ยงการใส่รองเท้าส้นสูง ควบคุมน้ำหนักและน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ  

Gen-Y คนที่เกิดระหว่างปี พ.ศ. 2523-2543 อายุ 9-29 ปี 
′Gen-Y′ เป็นลูกเป็นหลานของสองกลุ่มข้างต้น
 กลุ่มนี้มีค่านิยมที่เปลี่ยนไปด้วยเติบโตมาท่ามกลางความเปลี่ยนแปลง ทั้งจากค่านิยมที่แตกต่างจากรุ่นปู่ย่าตายายกับรุ่นพ่อแม่ ขณะเดียวกันก็ก้าวไปพร้อม ๆ กับเทคโนโลยีที่เจริญรุดหน้าทั้งคอมพิวเตอร์ อินเทอร์เน็ต และไอที 

 
มีคนกล่าวว่า ด้วยความสับสนและซับซ้อนที่คนกลุ่มนี้ต้องรับ จึงตั้งคำถามอย่างงง ๆ ถึงตัวเองว่า Why me ? คนกลุ่มนี้จะเป็นตัวของตัวเองสูง ไม่ชอบมีเงื่อนไข และไม่อยู่ในกรอบ ชอบการสื่อสารแบบไม่เผชิญหน้า ขณะเดียวกันก็ชอบความชัดเจนในเป้าหมาย
 Gen-Y อยู่ในวัยสดใสที่ก้าวเข้าสู่ชีวิตการทำงาน มักมีไมเกรน กรดไหลย้อน และกระเพาะปัสสาวะอักเสบ เป็นโรคยอดฮิต
 ′ไมเกรน′ เกิดจากความผิดปกติในการขยายและหดตัวของหลอดเลือด มักจะปวดศีรษะข้างเดียว ปวดตุ้บ ๆ จนทำงานไม่ได้ อาจมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน เกิดได้จากความเครียด การเปลี่ยนแปลงฮอร์โมน มีหรือหมดประจำเดือน ตั้งครรภ์ อ้วน และพันธุกรรม โดยจะมีสิ่งที่กระตุ้นทำให้ปวดศีรษะได้แก่ แสงจ้า เย็นหรือร้อนจัด เสียงดัง
  ′กรดไหลย้อน′ ภาวะที่กรดในกระเพาะไหลย้อนมาในหลอดอาหารทำให้เกิดการอักเสบของหลอดอาหาร มีอาการเจ็บหน้าอก มักเกิดกับผู้ที่กินอาหารไม่เป็นเวลา กินรสจัด เครียด และไม่ออกกำลังกาย
  ′กระเพาะปัสสาวะอักเสบ′ โรคยอดฮิตของสาว ๆ เกิดจากการกลั้นปัสสาวะ หรือดื่มน้ำไม่พอ มักมีอาการปัสสาวะบ่อยแต่น้อย ไม่สุด หรือกลั้นไม่อยู่ แสบ ขัด เจ็บตอนท้าย ๆ เมื่อปัสสาวะ บางรายอาจมีเลือดหรือขุ่น มีกลิ่น บางคนอาจมีไข้ เบื่ออาหาร และอาเจียน
  การดูแลป้องกัน ควรงดเครียด ดูแลน้ำหนักตัวให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ กินอาหารให้เป็นเวลา ไม่ทานอาหารรสจัด ดื่มน้ำมาก ๆ อย่ากลั้นปัสสาวะ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ

Gen-Z กลุ่มอายุน้อยที่สุดในปัจจุบัน เป็นผู้ที่เกิดในช่วง พ.ศ. 2537-ปัจจุบัน หรืออายุ 1-16 ปี
       ในเจเนอเรชั่นนี้จะเป็นช่วงที่คนเกิดใหม่น้อยลง ขณะเดียวกันก็จะเติบโตขึ้นท่ามกลางการเลี้ยงดูที่มีคุณภาพมากขึ้น และมีค่าใช้จ่ายสูงมากยิ่งขึ้นเช่นกัน  
     เจเนอเรชั่นรุ่นล่าสุด ที่มักมีสมาธิสั้น ภูมิแพ้ที่ผิวหนัง และหวัด มารุกราน
 

วันจันทร์ที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

วันอังคารที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

วันจันทร์ที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

วันพฤหัสบดีที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2553

วันศุกร์ที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

วันจันทร์ที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2553

วันเสาร์ที่ 10 เมษายน พ.ศ. 2553

Photo Hut Smart Purse

โฟโต้ฮัท เปิดเกมรบการตลาดครึ่งปีหลัง ชูกลยุทธ์ Loyalty Program
ผนึกพันธมิตรไทยสมาร์ทคาร์ด..เปิดตัว บัตรกล้องครั้งแรก ของไทย ที่ได้มากกว่ากล้อ ง
“โฟโต้ฮัทสมาร์ทเพิร์ส” คาดเป้า 2 เดือน 2.5 ล้านบาท

บริษัท โฟโต้ฮัท กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำด้านธุรกิจการถ่ายภาพแห่งแรกที ่มีสาขาศูนย์บริการมากที่สุดในประเทศไทย ตอกย้ำความเป็นผู้ นำด้านธุรกิจการถ่ ายภาพครบวงจร เดินหน้า....เปิดเกม- บการตลาดครึ่งปีห- ลัง ชูกลยุทธ์การตลาด Loyalty Program ผนึกพันธมิตรไทยสม าร์ทคาร์ด เปิดตัวบัตรกล้องค รั้งแรกของไทย ที่ได้มากกว่ากล้-อง..”โฟโต้ฮัทสมาร์ท เพิร์ส-PhotoHut Smart Purse” พร้อมมูลค่าบัตรกว ่า 5,000 บาท คาดเป้า 2.5 ล้านบาท ภายใน 2 เดือน ณ ร้านโฟโต้ฮัท สาขา Digital GateWay ซึ่งเป็นบัตรสมาชิ ก Xclusive ใบแรกที่สามารถรอง รับกลุ่มลูกค้าของ โฟโต้ฮัทได้หลากห- ลาย ด้วยเทคโนโลยีไมโค รโปรเซสเซอร์ชิพอั นชาญฉลาดของสมาร์ ทเพิร์ส ซึ่งถือเป็นชิพอัฉริยะที่มีความสาม ารถบันทึกและจัดเก็บข้อมูลของสมาชิก ตลอดจนข้อมูลการใช ้จ่ายต่างๆของผู้ถ ือบัตรที่มากขึ้น- จึงทำให้ตอบสนองกา รใช้งาน และเข้าถึงกลุ่มลู กค้าของทางโฟโต้ฮั ท ผู้ที่มีไลฟ์สไตล- การใช้กล้องได้อย่ างลงตัว โดยทุกการใช้จ่ายที่โฟโต้ฮัททุกสาขา สมาชิกผู้ถือบัตรจะได้รับ Photo Hut Shot สะสมไว้ในบัตร ทุกๆ 50 บาท รับ 1 Shot (แต้ม) เพื่อนำมาแลกแทนส่วนลดเงินสด ..ของรางวัล หรือแลกรับสิทธิ์การเข้าร่วมกิจการมต่างๆที่ Photo Hut จัดขึ้น ซึ่งถือเป็นสิทธิ- ที่ให้เฉพาะลูกค้า Xclusive ของโฟโต้ฮัทใบนี้โดยเฉพาะ

นายสมชาย ครองสมบูรณ์ ประธานเจ้าหน้าที- บริหาร บริษัท โฟโต้ฮัท กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ทางโฟโต้ฮัทได้เล ็งเห็นความสำคัญของลูกค้า จึงเดินหน้ารุกกิจกรรมทางการตลาดมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะไตรมาสสุดท้ายของปี 2552 หลังจากประสบความส ำเร็จจากครึ่งปีแรก ที่ใช้กลยุทธ์ทางการตลาดทางด้าน CRM เน้นเจาะกลุ่มลูกค ้า มาทำกิจกรรมเชิงท่องเที่ยวถ่ายภาพ ล่าสุดได้จับมือกับพันธมิตรค่ายดัง อย่าง ไทยสมาร์ทคาร์ด เปิดตัวบัตรอัจฉริยะ โฟโต้ฮัทสมาร์ทเพิร์ส [PhotoHut Smart Purse] บัตรกล้องใบแรกขออเมืองไทย ที่ได้มากกว่ากล้อง พร้อมชูกลยุทธ์ Loyalty Program มาใช้ เพื่อเก็บข้อมูลการใช้จ่ายของลูกค้าในการทำกิจกรรมทางการตลาด เพื่อตอบสนองความต ้องการของลูกค้าได ้มากขึ้น คาดเป้า 2.5 ล้านบาท ภายใน 2 เดือน โดยได้รับความร่วมมือจากพันธมิตรค่ายกล้องดังมากมาย ในการเข้าร่วมแคมเปญครั้งนี้ โดยบัตรมีมูลค่ากว ่า 5,000 บาท มีจำหน่ายที่ร้านโฟโต้ฮัท ทุกสาขา ซึ่งสามารถเติมเงินในบัตรด้วยเงินสดเท่านั้น ได้มากถึง 50,000 บาท พร้อมอายุบัตรนาน- ถง 3 ปี โดยสามารถใช้ได้ที ่ร้านโฟโต้ฮัท ทุกสาขา และร้านค้าจุดรับบ ัตรอื่นๆทั่วประเทศที่มีสัญลักษณ์สมาร์ทเพิร์ส กว่า 15,000 จุด โดยทุกครั้งที่ผู้ถือบัตรมาใช้บริการที่ร้านโฟโต้ฮัท- ทุกๆ 50 บาท จะได้รับ Photo Hut Shot 1 Shot สะสมในบัตร ซึ่งเป็นสิทธิพิเศษเฉพาะผู้ถือบัตร PhotoHut Smart Purse เพื่อรับสิทธิประโยชน์พิเศษมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการมาซื้อสินค้า และใช้บริการล้างอ ัดรูปที่ร้านโฟโต้ฮัท ทุกสาขา อีกทั้งเข้าร่วมกิจกรรมทริปพิเศษต่างๆในการเรียนรู้การถ่ายภาพที่ไม่เหมือนใคร ทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งถือเป็นการซื้อกล้องและสินค้าือื ่นๆในร้านโฟโต้ฮัท จะได้มากกว่าการไปซื้อที่ร้านกล้องอ ื่นๆที่ได้แค่กล้อง นี่เป็นแค่จุดเริ่มตัวของการเปิดตัวบัตรอัจฉริยะเท่า- นั้น ในอนาคตเรายังจะมีการจัดกิจกรรม พร้อมโปรโมชั่นดีๆร่วมกับไทยสมาร์ทการ์ดอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ก็เพื่อลูกค้า Xclusive ของทางโฟโต้ฮัท และสมาร์ทเพิร์ส

พิเศษสุด...กับการเป ิดตัวบัตรครั้งแรกเมื่อซื้อกล้องถ่ายรูปทุกรุ่น ทุกยี่ห้อ มูลค่าตั้งแต่ 9,990 บาทขึ้นไป ตั้งแต่วันนี้– 31 ธันวาคม 2552 รับฟรีบัตร PhotoHut Smart Purse หรือซื้อบัตร Photo Hut Smart Purse ราคา 500 บาท พร้อมสิทธิประโยชน ์พิเศษมากมาย อาทิ E – Coupon มูลค่า 600 บาท สำหรับใช้แทนเงินสดที่ร้านโฟโต้ฮัท ทุกสาขา และคูปองส่วนลดจากโฟโต้ฮัท และร้านค้าพันธมิตรจากค่ายกล้องดังมากมาย มูลค่ากว่า 5,000 บาท สมกับเป็นบัตรกล้องใบแรกของไทย ที่ได้มากกว่ากล้องจริงๆ “ คุณสมชาย กล่าวทิ้งท้าย

นายเฉลิมชัย ฉัตรชัยกนันท์ ประธานเจ้าหน้าที่ สายงานธุรกิจและปฏ ิบัติการ บริษัท ไทยสมาร์ทคาร์ด จำกัด ผู้ให้บริการบัตรเงินสดดิจิตอลสมาร์ทเพิร์ส กล่าวว่า “บัตรโฟโต้ฮัท สมาร์ทเพิร์ส จะเข้ามาช่วยเพิ่มมูลค่าทางการตลาดให้แก่ทางโฟโต้ฮัท- ได้อย่างมีประสิทธ ิภาพและวัดผลได้ ด้วยเทคโนโลยีไมโครโปรเซสเซอร์ชิพ ถือเป็นชิพอัจฉริยะที่มีความสามารถบ ันทึกและจัดเก็บขอ ้มูลของสมาชิก ตลอดจนข้อมูลการใช ้จ่ายต่างๆ ซึ่งช่วยต่อยอดในการจัดทำ Loyalty Marketing และ CRM ที่สามารถประมวลผล ข้อมูลเพื่อดูไลฟ- สไตล์และพฤติกรรม- ของลูกค้า เพื่อนำมาใช้ในกร วางแผนแคมเปญทางกา รตลาดต่างๆ หรือจัดรายการส่งเสริมการขายได้ตรงก ับความต้องการของ- ลูกค้า โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การทำ E-Loyalty รูปแบบใหม่ของเมืองไทยซึ่งอยู่ในรูปแบบของอิเลคทรอนิกส์ ไม่ว่าจะเป็น การเล่นแคมเปญผ่า- E-Coupon (คูปองส่วนลดอิเล็ค ทรอนิกส์), E-Voucher (ตั๋วเงินอิเล็กทรอ นิกส์) ที่สามารถนำมาใช้- นการขายแพคเกจล่วงหน้า โดยการโหลดลงในบัตร ซึ่งผู้ถือบัตรสา- มารถใช้ซื้อสินค้าห รือบริการในร้าน แทนเงินได้ทันที ซึ่งอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ถือบัตร โดยที่ไม่ต้องพกค ูปองกระดาษ พร้อมช่วยทางร้าน-ลดต้นทุนของการผลิต คูปองกระดาษ และลดความยุ่งยาก-ในการบริหารจัดการค ูปองของพนักงานหน ้าร้าน รวมไปถึงการลดขั้น ตอนความยุ่งยากในการจัดส่งคูปองให้- สมาชิก ซึ่งทั้งหมดนี้ถือ เป็นประโยชน์อย่างยิ่งกับทางโฟโต้ฮ ัท ที่ต้องการสร้างให ้ลูกค้าเกิดความประทับใจและกลายเป็ นลูกค้าประจำที่มี ความภักดีต่อ Brand โฟโต้ฮัท มากยิ่งขึ้น

นอกจากมูลค่าเพิ่มทางการตลาดที่โฟโต ้ฮัทจะได้รับจากก ารร่วมออกบัตรครั้ งนี้แล้ว ยังถือเป็นการขยายลูกค้าใหม่จากฐานล ูกค้าผู้ถือบัตรส- มาร์ทเพิร์สในตลาด ราว 2.5 ล้านใบที่สามารถนำ บัตรทุกแบบมาใช้บร ิการที่ร้านโฟโต้ฮัทได้เช่นเดียวกั น และเช่นเดียวกันลู กค้าผู้ถือบัตรโฟ- ต้ฮัท สมาร์ทเพิร์ส นอกจากรับสิทธิประ โยชน์จากทางโฟโต้ฮ ัทโดยตรงแล้ว ยังสามารถนำบัตรไป ใช้จ่ายตามจุดรับบ ัตรสมาร์ทเพิร์สก ว่า 15,000 แห่งทั่วประเทศ อาทิ ร้านสะดวกซื้อ 7-Eleven ฯลฯ พร้อมรับสิทธิประ-โยชน์ที่ทางร้านค้า เหล่านี้มอบให้” คุณเฉลิมชัย กล่าวเพิ่มเติม 

วันอังคารที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2553




คุณหนิง
Posted by Picasa

ผู้ติดตาม

คลังบทความของบล็อก